บิลใหญ่สุดของทรัมป์

กฎหมายที่ไม่ได้รับความนิยมแต่ยังคงอยู่
ฉันเคยวิเคราะห์แนวโน้มตลาดและสัญญาณนโยบายผ่านสมการและโค้ด มาโดยตลอด แต่ล่าสุดกลับสนใจข้อมูลที่แตกต่าง: พฤติกรรมมนุษย์ภายใต้ความกดดัน การเสนอโครงการกฎหมายครั้งใหม่ของทรัมป์อย่าง ‘บิลใหญ่สวยงาม’ เหนือกว่าคำพูดเรื่องการบริหารตามแนวทางอนุรักษ์นิยมจริงๆแล้วคืองานซ้อนซึมของการลดภาษี การตัดงบประมาณสวัสดิการ และการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับอาวุธ—จัดเรียงเหมือนผ้าห่มที่เย็บจากเศษผ้าหลายชนิด
แต่มันก็เดินหน้าต่อไปได้อย่างน่าประหลาด
เหตุผลที่ Republican ก็หวาดกลัว
ขอชี้แจงตรงๆ: ส่วนใหญ่สมาชิกพรรค GOP ไม่ชอบบิลนี้เลย มีความกังวลเรื่องการลดเงินช่วยเหลือ Medicaid หรือตัดโปรแกรมอาหารที่ช่วยคนจริงๆ ในพื้นที่เลือกตั้งสำคัญบางแห่งบางคนเรียกว่า ‘ขาดความรับผิดชอบทางการคลัง’ อีกหลายคนกลัวจะเสียเก้าอี้ในปี 2026
แต่มีจุดพลิกผัน: แทนที่จะโต้วาที คนจำนวนมากเลือกเงียบ—หรือเลวร้ายกว่านั้นคือบอกว่าเห็นด้วยกับทรัมป์… ก่อนจะพูดส่วนตัวกับเขาเอง
ฉันเคยรายงานการพูดคุยกับคณะกรรมาธิการวุฒิสภา เมื่อสมาชิกคนหนึ่งบอกฉันว่าเปลี่ยนคะแนนหลังจากได้โทรหาประธานาธิบดี: “เขาบอกว่าชอบแผนเดิมของฉัน” เขาสารภาพ “เลยกลับไปลงคะแนนเดิม” จากนั้นในวันเดียวกัน? เขาบอกฉันว่าทรัมป์โทรหาอีกคนแล้วบอกตรงข้ามกันหมด
ไม่ใช่วาระกรรมทางการเมือง—แต่มันคืออาการเวียนหัวทางอารมณ์
เคล็ดลับงบประมาณที่เปลี่ยนเกม
มาพูดถึงเลข—เครื่องจักรจริงเบื้องหลังวงเวียนแห่งนี้
พรรครีพับลิกันในวุฒิต้องใช้วิธี ‘เล่นกระดาษเงิน’ เพื่อให้อะไรลดลงกลายเป็นประหยัด โดยพวกเขาใช้อำนาจในการมองภาษีชั่วคราว (เช่น จากปี 2017) เป็นถาวร—even though they were meant to expire! เมื่อขยายเวลาออกไป มันไม่นับเป็นรายจ่ายใหม่
เหมือนบอกว่าค่าเช่ายานพาหนะรายเดือนตอนนี้กลายเป็นไลฟ์สไตล์ปกติตามธรรมชาติ —เลยไม่อยากเสียใจเมื่อรู้สึกอยากเชายานพาหนะหรูราคาแพงใบถัดไป
เลขอาจหลอกตา—but politically brilliant. เพราะไม่มีหมอกแดงบนกระดาษ? เหมาะสมสำหรับขายให้ประชาชนที่เห็นแค่ข่าว ‘ไม่มีรายจ่ายใหม่!’
พลังเหนือนโยบาย — มันหมายถึงอะไร?
สิ่งที่สนใจฉันมากกว่าแค่ว่า ‘บิลจะผ่านไหม’ เพราะตอนนี้เหมือนแน่นอนแล้ว ส่วนสำคัญคือ ทำไม มันถึงเป็นแบบนี้
เพราะแก่นแท้มหาศาลของเรื่องไม่ใช่วictories เชิงอุดมการณ์หรือเศรษฐศาสตร์สนับสนุนมูลฐาน—แต่มันคืออำนาจโดยปราศจากการตรวจสอบ
debate เรื่องรายละเอียดน้ำตาไหล เมื่อเสียงโหวตกลายเป็นการแสดงความภักดีแทนคำประเมินตนเอง
ใครๆ ก็รู้ว่านโยบายจะกระทบคนจน—and still support it because ‘the boss wants it.’
สำหรับฉัน มันไม่ใช่องคมารตรรกะ; มันคือระบอบเผด็จการภายใต้ม่านของกฎหมาย
เคร่งเตือนจากประวัติก่อนหน้า — และหวังอนาคต?
can we learn anything from past failures? certainly—the same playbook was used during Biden’s era too—but with different outcomes because Democrats had stronger internal unity and clearer messaging around public good. hopefully, in time, someone will stand up and say: yes, it hurts, because we care more about fairness than winning votes by fear or favoritism. i believe that moment is coming—but until then, i’ll keep watching closely, analyzing not just laws but leadership style—and asking: is power serving people—or just preserving itself? as someone who believes tech should empower humans—not replace them—I see echoes here: centralized control overriding decentralized decision-making, a pattern we saw across Web3 debates too, once again proving: power without transparency always leads somewhere dangerous.
NeonLantern77
ความคิดเห็นยอดนิยม (4)

Bayangkan ini: Trump ngeluarin tagihan cantik biar rakyat jadi kaya… tapi yang kaya itu duitnya bukan dari pajak, tapi dari mimpi di Capitol! Medicaid dipotong kayak nasi goreng tanpa kecap—dan semua itu disebut “fiscal responsibility”? Saya cuma nanya: siapa yang bayar? Tapi yang bayar malah kita-kita! Jangan lupa: di 2026 nanti, mobil listrik bakal jadi simbol kekuasaan. Eh… kalau kamu beli rumah baru? Jangan lupa kasih komentar: “Mau beli apa hari ini?”

Трамп снова в деле — и на этот раз даже не пытается скрыть: это не закон, а командный приказ в формате билля. Государственные программы режут как пельмени, а налоговые уступки превращают в вечность — будто квартплата стала стандартом жизни.
Республиканцы молчат… или лгут на камеру. А потом звонят президенту и говорят: «Слушаю вас!»
Вот это да — демократия с фичей «подчинение по голосу».
Кто следующий? Кто решит: «Нет, мы не будем платить за халатность»?
Кто-нибудь? Пишите в комментарии — пусть хотя бы один человек будет честным!


