ZetaChain: อนาคตของความสามารถในการทำงานร่วมกันข้ามเชน

ปัญหาของการทำงานข้ามเชน

ในโลกแห่งหลายเชนปัจจุบัน ความแตกแยกของบล็อกเชนเป็นปัญหาที่ทุกคนมองเห็น ในฐานะผู้ที่วิเคราะห์โซลูชันการเชื่อมต่อและทำงานร่วมกันมานับไม่ถ้วน ฉันบอกได้ว่าส่วนใหญ่เป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น นี่คือ ZetaChain - Layer 1 แรกที่ทำให้ฉันสนใจจริงๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกับ Ethereum ในปี 2016

ZetaChain ทำงานอย่างไร (โดยไม่ทำให้คุณปวดหัว)

สัญญาอัจฉริยะแบบ omnichain

จุดเด่นของ ZetaChain คือ สัญญาอัจฉริยะแบบ omnichain ที่ขับเคลื่อนโดย zEVM engine ลองนึกภาพสัญญาที่สามารถโต้ตอบกับ Bitcoin (ใช่ BTC!), Ethereum และเครือข่าย Cosmos ได้พร้อมกันโดยไม่ต้องใช้ wrapper หรือสะพานจากบุคคลที่สาม นั่นไม่ใช่เทคโนโลยีแห่งอนาคต - มันทำงานอยู่บน mainnet แล้ว

โครงสร้างพื้นฐาน

• Validators: Validators แบบ PoS ปกติที่ staking โทเค็น ZETA
• Observers: ตาและหูของเชนที่ตรวจสอบเครือข่ายภายนอก
• Signers: ผู้ดูแลคีย์ร่วมที่เปิดใช้งานธุรกรรมข้ามเชน

เคล็ดลับ: การรันโหนด Zeta ต้องการทรัพยากรมากกว่าการตั้งค่า validator ทั่วไป แต่ đóคือราคาของความสามารถในการทำงานร่วมกันที่แท้จริง

การเปรียบเทียบกับคู่แข่ง

เทียบกับ LayerZero

LayerZero เป็นผู้เล่นหลักในด้านข้อความข้ามเชน แม้ LayerZero จะโดดเด่นด้วย Stargate แต่ก็ยังต้องพึ่งพาองค์ประกอบส่วนกลาง (เช่น Google Cloud) ZetaChain เสนอการกระจายอำนาจเต็มรูปแบบรวมถึงฟังก์ชันสัญญาอัจฉริยะ - ชุดคุณสมบัติที่ LayerZero เทียบไม่ได้

เทียบกับ Axelar

Axelar พัฒนาบน Cosmos SDK มีโครงสร้างคล้ายกันแต่ขาดความสามารถ zEVM สำหรับนักพัฒนาที่ต้องการความเข้ากันได้กับ EVM แล้ว ZetaChain คือตัวเลือกที่ดีกว่า

ทำไมโทเค็น ZETA จึงสำคัญ

นอกเหนือจากการกำกับดูแลแล้ว ZETA ยังทำหน้าที่:

1. ค่าแก๊สสำหรับเครือข่าย
2. โทเค็นสำหรับการกำหนดเส้นทางข้ามเชน
3. กระดูกสันหลังของ liquidity pool
4. กลไกกระตุ้น validator

ด้วยอุปทานคงที่ 2.1B โทเค็นและการจัดสรรเชิงกลยุทธ์ (10% สำหรับการเติบโตของผู้ใช้, 12% กองทุนระบบนิเวศ) เศรษฐศาสตร์โทเค็นแสดงให้เห็นถึงความคิดระยะยาวที่รอบคอบ

สรุป

แม้ LayerZero จะนำหน้าในด้านการนำไปใช้ แต่ความเหนือชั้นทางเทคนิคของ ZetaChain ในการจัดการกับเชนที่ไม่ใช่สัญญาอัจฉริยะ (เช่น BTC, DOGE) ทำให้มันมีตำแหน่งทางการตลาดที่พิเศษ ในช่วงแข่งขันเพื่อความสามารถในการทำงานร่วมกันอย่างแท้จริงของบล็อกเชน ม้าดำตัวนี้อาจจะเป็นผู้ชนะ